ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.52 น. วันที่ 15 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าวังผา รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายรุนแรง เมื่อไปถึงพบเพียงรอยเลือดจำนวนมากบริเวณแท็งก์น้ำหลังบ้าน และคราบเลือดกระเซ็นติดผนัง

ต่อมาทราบว่าผู้บาดเจ็บคือ นางสมจิตร ถูกฟันด้วยของมีคมหลายแผล อาการสาหัส ญาตินำส่งโรงพยาบาลสมเด็จยุพราชปัว แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ผลการชันสูตรโดยแพทย์ รพ.ปัว พบแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ที่ศีรษะ และบาดแผลถลอกตามลำตัว

ผู้ก่อเหตุคือ นายคำแหง สุทธหลวง ซึ่งเป็นน้องชายของนายสมคิด สุทธหลวง สามีผู้ตาย หลังก่อเหตุได้หลบเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมงเจรจาเกลี้ยกล่อม จึงยอมมอบตัว โดยตรวจพบจอบเปื้อนเลือดในบ้าน จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนทราบว่า นายคำแหงเคยถูกจำคุก 2 ปี ในคดียาเสพติด และเชื่อว่าผู้เสียชีวิตเป็นผู้แจ้งเบาะแส จึงเกิดความโกรธแค้น เคยประกาศจะฆ่าทั้งครอบครัวเมื่อพ้นโทษ หลังพ้นโทษได้กลับมาอาศัยที่บ้านเดียวกัน โดยมีประวัติใช้ยาเสพติดต่อเนื่องจนเกิดอาการทางจิต แพทย์เคยสั่งยาให้ แต่ไม่ยอมรับประทาน

ในวันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 08.00 น. ผู้ตายออกไปเก็บหน่อไม้ แต่หายไปนานผิดปกติ จนสามีออกตามหา พบว่านายคำแหงเดินออกมาจากหลังบ้าน พร้อมจอบเปื้อนเลือด จึงตามรอยเลือดไปจนพบศพถูกลากไปทิ้งในป่ากล้วยหลังบ้าน

ต่อมาเวลา 15.00 น. พนักงานสอบสวนพร้อมตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดน่าน เข้าตรวจที่เกิดเหตุ พบอาวุธจอบตกอยู่ในบ้านของผู้ต้องหา และได้ทำการตรวจยึดไว้

จากนั้นเวลา 15.30 น. นายสมคิด สุทธหลวง อายุ 61 ปี สามีผู้เสียชีวิต เข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการยื่นขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดน่าน (สาขาปัว)

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นยังไม่สามารถแจ้งข้อหาได้ เนื่องจากผู้ต้องหามีอาการพูดจาไม่รู้เรื่อง คล้ายสติไม่สมประกอบ และปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ลงมือ ตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติด จึงนำตัวส่ง รพ.ท่าวังผา และส่งต่อไปยังโรงพยาบาลน่านเพื่อรักษาและประเมินอาการจิตเวช ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมาย