หนุ่มขาใหญ่ดักยิงอดีตสารวัตรกำนันดับ หลังไปร่วมฉลองงานบวช ขี่รถ จยย.กลับบ้าน คู่อริยกพวกมาดักรุมยิงและฟันดับกลางถนน ต่อมาตำรวจตรวจสอบทราบผู้ก่อเหตุถูกยิงรักษาตัวที่ รพ.เข้าอายัดตัว อ้างก่อเหตุคนเดียวเจอผู้ตายโดยบังเอิญเข้าไปเคลียร์ปัญหาถูกยิงก่อน ชักปืนยิงสวนแล้วหยิบปืนผู้ตายไปฝากเพื่อน ตำรวจไม่ปักใจเชื่อเตรียมเรียกเพื่อนผู้ก่อเหตุมาสอบสวน

เหตุหนุ่มคู่อริยิงอดีตสารวัตรกำนันดับรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 00.10 น.วันที่ 27 เม.ย. พ.ต.ต.สายฝน หลักเพชร สว.(สอบสวน) สภ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี รับแจ้งเหตุชายถูกยิงเสียชีวิตที่ถนนในหมู่บ้าน หมู่ 3 ต.บ้านไร่ ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูภณ ทัพเจริญ ผกก.สภ.ดำเนินสะดวก ตำรวจฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลดำเนินสะดวกและอาสากู้ภัยสว่างราชบุรี
ที่เกิดเหตุพบศพนายเอกนรินทร์ หรือเปรี้ยว ดีรื่น อายุ 40 ปี อดีตสารวัตรกำนัน ต.บ้านไร่ สภาพนอนหงายถูกยิงที่โหนกแก้ม 1 นัด ตาขวา 1 นัด และลำตัว 3 นัด ที่ศีรษะถูกทุบตีและฟันเป็นแผลลึก 3 แผล ตรวจสอบในตัวผู้ตายพบทรัพย์สินยังอยู่ครบ ยกเว้นปืน .357 หายไปเหลือแต่ซองปืนเหน็บอยู่ที่เอว ใกล้กันยังพบกระสุนปืน 11 มม. 1 นัด บนพื้นพบกระดุมเสื้อ 1 อัน ห่างออกไปพบหัวกระสุนปืน .38 ตกอยู่ในท่อระบายน้ำ 1 หัว เจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นหลักฐาน ต่อมาตำรวจฝ่ายสืบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุถูกยิงบาดเจ็บเข้ารักษาตัวที่ รพ.ดำเนินสะดวก ไปตรวจสอบทราบชื่อนายเม่น อายุ 30 ปี เป็นขาใหญ่ในชุมชนถูกยิงที่หน้าท้อง 1 นัด แพทย์อยู่ระหว่างผ่าตัดช่วยชีวิต ตำรวจแจ้งอายัดตัวไว้
สอบถามชาวบ้านทราบว่า ผู้ตายขี่รถ จยย.มาร่วมงานเลี้ยงฉลองอุปสมบทเพื่อนบ้าน หลังเสร็จงานผู้ตายเดินกลับไปที่รถ จยย. จังหวะนั้นมีกลุ่มชายขี่รถ จยย.มา 2 คัน รวม 4 คน เข้ารุมทำร้ายและได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดแล้วกลุ่มชายขี่รถหลบหนีไป ชาวบ้านเข้าไปดูเห็นผู้ตายนอนจมกองเลือดรีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ คาดกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นพวกนายเม่น เมื่อช่วงบ่ายมีขบวนแห่นาคผู้ตายมีเรื่องทะเลาะกับกลุ่มนายเม่น ชาวบ้านช่วยกันห้ามปรามแยกย้ายกันกลับบ้าน ภายหลังมาดักรอหน้างานเลี้ยงฉลองนาคก่อเหตุฆ่า
ต่อมาช่วงบ่าย วันเดียวกัน ตำรวจฝ่ายสืบสวนเข้าไปสอบปากคำนายเม่น ที่ รพ.ดำเนินสะดวก ให้การอ้างว่า ลงมือก่อเหตุยิงนายเปรี้ยวเพียงคนเดียว สาเหตุมาจากปัญหาส่วนตัวทะเลาะกันในงานบวช ไม่เกี่ยวกับการเมืองท้องถิ่น จังหวะขี่รถ จยย.มาเจอนายเปรี้ยวเดินออกมาจากงานเลี้ยงเข้าไปเคลียร์ปัญหา แต่กลับถูกยิงก่อนจึงชักปืนที่พกมายิงใส่นายเปรี้ยวจนล้มลงกับพื้น ช่วงเกิดเหตุไม่ได้ยกพวกรุมทำร้าย หลังก่อเหตุหยิบปืนของผู้ตายไปด้วยแล้วนำฝากไว้กับเพื่อน ก่อนจะเข้ามารักษาตัวที่ รพ. ขณะที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อเพราะบาดแผลผู้ตายถูกฟันและตีที่หัว อยู่ระหว่างติดตามเพื่อนนายเม่นมาสอบปากคำต่อไป
ขณะที่ น.ส.วาสนา หรือนก ฟักแก้ว อายุ 43 ปี ภรรยาผู้ตาย เดินทางมารับศพที่ศูนย์นิติเวช โรงพยาบาลราชบุรี เพื่อนำร่างไปสวดบำเพ็ญกุศล เปิดเผยว่า ครอบครัวรู้สึกเสียใจและโกรธแค้นผู้ก่อเหตุมากที่ลงมือก่อเหตุทำสามีแบบนี้ ก่อนเกิดเหตุสามีไม่ได้พูดอะไรหรือสั่งเสียใคร ประเด็นที่นายเม่นอ้างก่อเหตุคนเดียวตนไม่เชื่อ เพราะถ้ามาคนเดียวตัวต่อตัวสามีสู้ได้แน่นอน สามีมีนิสัยพูดจาตรงๆ ชอบช่วยเหลือคน ถ้าเพื่อนมีปัญหาจะอาสาออกหน้าเป็นคนไปช่วยก่อนเสมอ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเกี่ยวกับการเมืองท้องถิ่น น่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวมากกว่า
เครดิต : https://www.thairath.co.th/news/local/2855247